ไผ่เป็นคนที่มักถูกมองว่า เป็นคนกล้าแสดงออก หรือบางครั้งก็ถูกนับเป็นคนดื้อ ๆ คนหนึ่ง การแลกเปลี่ยนผ่านวงสนทนาเป็นสิ่งที่คุณมักจะทำอยู่เสมอ และอาจมีบางครั้งที่ความคิดเห็นไม่ลงรอยกันรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นการทะเลาะ แต่คุณก็ยังคงเป็นคุณที่กล้าพูดในสิ่งที่คิดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเช่นเดิม คุณอาจมองว่า การพูดคุยอย่างเปิดอกเป็นสิ่งที่ทำให้คนสองฝ่ายเข้าใจกันได้มากที่สุด ไผ่เองคิดเช่นนั้น และไผ่รู้ว่า 112 อันตรายยังไง เขาเหมือนคุณ แต่เขาเลือกเส้นทางที่ต่างจากคุณ
ผมเป็นเด็กที่เรียนด้วย ดื้อด้วย มึนด้วย เคยเถียงกับอาจารย์เรื่อง ห้างโลตัสจะมาตั้งที่บ้าน เราก็เถียงว่า ‘มันไม่ดีครับ ร้านโชห่วยจะอยู่ไม่ได้’
เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คิดไม่เหมือนคนอื่น คิดแล้วกล้าพูด พร้อมแลกเปลี่ยนกันหรือทะเลาะ ถ้าครั้งแรกเถียงแพ้ ผมจะกลับไปหาข้อมูลแล้วมาเถียงใหม่ คนอื่นไม่เห็นด้วย เขาอาจนั่งนิ่ง ๆ แต่ผมเป็นคนดื้อ ๆ มึน ๆ
ผมลงพื้นที่ไปกับพ่อแม่ตลอดนะ (วิบูลย์ บุญภัทรรักษา และพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของไผ่ เป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนทั้งคู่) หลายพื้นที่ หลายปัญหา
เริ่มตั้งแต่ประถมเลย ช่วงรณรงค์รัฐธรรมนูญปี 2540 ผมไปเขียนชื่อด้วย เด็กไปไหนก็สนุก พอไปบ่อย ๆ เลยได้เห็นบรรยากาศ การโตมาในที่แบบไหน เราก็เป็นคนแบบนั้น
ผมฝึกเล่นแคนตั้งแต่เด็ก เพราะเวลาลงพื้นที่กับพ่อเขาจะเอาแคนไปเป่าด้วย มันท้าทายดีที่เราสามารถแกะเพลงแคนมาตรฐานแล้วเล่นได้ ต่อจากนั้นผมก็ฝึกเครื่องดนตรีอื่น ๆ อย่างพิณ โปงลาง จนได้ไปเดินสายประกวดเป่าแคน ไปสอนดนตรีให้เด็กประถม
ผมใช้ดนตรีมาเป็นแนวทางในการต่อสู้ตลอด ผมทำวงสามัญชนร่วมกับเพื่อน ๆ ที่เป็นนักกิจกรรม แต่งเพลงขึ้นมาเองเพื่อรับใช้จิตวิญญาณและอุดมการณ์ที่เราเชื่อ ผมชอบทุกเพลงของสามัญชน เพราะเราได้ส่งเมสเซจอะไรบางอย่างผ่านเสียงดนตรี
ผมก็มีชีวิตจิตใจมีความกลัวเหมือนกัน และเป็นสามัญชนคนธรรมดา และผมเห็นว่า สู้ทั้งที่รู้ว่าแพ้ ยังดีกว่าแพ้ที่ไม่คิดจะสู้
แม่กับไผ่ทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะแม่จะคอยเตือนอยู่บ่อย ๆ ว่าไผ่ไม่จำเป็นต้องออกนำหน้า แต่เขาก็บอกว่า ไผ่อยู่ที่เดิม เพียงแต่เพื่อนถอยไปข้างหลัง เลยทำให้ไผ่ดูเหมือนนำอยู่ข้างหน้า และถ้าไผ่ไม่ทำ แล้วใครจะทำ
ไผ่ต่อสู้เพื่อสังคมมาตลอด เราจะขอเขาแค่ว่าดูแลใจแม่ด้วย แบ่งใจที่ทุ่มเต็มร้อยให้ส่วนรวมมาให้แม่บ้าง อย่าให้ส่วนรวมไปทั้งร้อยได้ไหม แต่แม่รู้อยู่แล้วว่าห้ามไม่ได้ ก็ได้แต่ขอร้องเขาว่าแบ่งใจให้แม่บ้าง
พริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของไผ่ ดาวดิน
3 ธันวาคม 2559
เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กับไผ่ ดาวดินจากกรณีการแชร์ข่าวพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 ตอนที่เขากำลังร่วมขบวนธรรมยาตราลุ่มน้ำประทาว ที่จังหวัดชัยภูมิ
เขาเข้ามาถามว่า “ใช่ ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ไหมครับ” “ใช่ครับ” /“ทางตำรวจได้รับแจ้งความจาก พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี…” แล้วก็บอกว่าคดีอะไร ตอนนั้นช็อกนะ ฉิบหายแล้ว ถ้าคดีอื่นผมไม่กลัวนะ เรายังพูดอะไรได้ แต่คดีมาตรา 112 คือจบเลย จบทุกอย่าง
หลังจากนั้นขั้นตอนมั่วไปหมด เวลาเขาจะจับใครก็ต้องแจ้งสิทธิ์ใช่ไหม แต่จริง ๆ ไม่ได้แจ้งหรอก ตอนนั้นผมไม่ยอมรับคำให้การ มันไม่ใช่ คุณไม่ได้แจ้งสิทธิ์ผม เลยไม่เซ็น
เขาจะพาไป สภ.เมืองขอนแก่น ผมก็บอกคนอื่น มันเป็นสิทธิที่จะบอกญาติพี่น้องหรือทนาย คนไปรอกัน พอขึ้นรถก็ยึดโทรศัพท์แล้วอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนเส้นทาง ผมเลยบอกว่า “เฮ้ย พี่ ทำแบบนี้ได้ยังไง ผมมีสิทธิที่จะแจ้งให้คนอื่นรู้"
สำหรับผมรู้สึกมันกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อไปแล้ว ผมอาจจะไม่ได้ขี้กลัวด้วย ผ่านมาขนาดนี้แล้ว ผมก็รู้สึกว่า มันไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว ขี้เกียจกลัวแล้ว เบื่อและรำคาญมากกว่า โดนคดีจนน่ารำคาญและคิดว่ามันไร้สาระ
ผมรู้สึกว่าไม่ขยาด มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าวิธีการเดิมๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่ผลของมันแตกต่างจากเดิม เขาใช้วิธีการทางกฎหมายเหมือนเดิม แต่ว่าคนไม่ได้กลัวเหมือนเดิม
จะมีชีวิตที่ปลอดภัยในประเทศนี้หรือจะมีชีวิตที่ดีไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว ควรต้องอยู่เฉย ๆ หรือไง เราก็ไม่ได้สนใจ เราเลือกการตายของเราไว้แล้วไง เราจะเลือกตายแบบนี้ดีกว่า เท่กว่าเยอะ เรามีไอดอลคือ เช เกวารา ตายอย่างเท่ มหาตมะ คานธี ก็ตายอย่างเท่ทั้งนั้นเลย แล้วทำไมเราจะตายแบบธรรมดาล่ะ
ผมไม่กลัวหรอก เขาก็บอกว่าสู้แบบนี้ ไม่ตายก็ติดคุก มันก็ติดคุกไปแล้ว เหลือแค่ตายแค่นั้นแหละ ตายก็ตาย ทุกคนก็ตายอยู่แล้ว แต่เราทำอะไรไว้ก่อนตาย เราทิ้งอะไรไว้หลังตายแค่นั้น ผมก็เลยไม่กลัวไง
ถ้าเราฟังคำขู่อย่างนั้นแล้วเรากลัวคำขู่ เราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วหรือเปล่า เราต้องหนีไปต่างประเทศหรือเปล่า เราต้องหยุดเลยหรือเปล่า มันไม่ใช่แล้ว ในขณะที่คนอื่นยังสู้กันเต็มไปหมด
ในวันที่ 8 มีนาคม 2564 อัยการสั่งฟ้อง ไผ่ ดาวดินในมาตรา 112 เนื่องจากการชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ทำให้เขาถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
เปลี่ยนชีวิตใครหลายคนไปตลอดกาล
จากคนธรรมดาที่มีความเชื่อ ความฝัน เป็นคนสำคัญของครอบครัวและเพื่อนพ้อง คนธรรมดาที่ชีวิตมีทั้งรอยยิ้มและรอยน้ำตา คนธรรมดาที่ตกเป็นจำเลยทางความคิดของสังคมไทย