112 เท่าที่เล่าได้ เล่น Quizรู้จักราษฎรเข้าใจ112
อั้ม เนโกะ
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame

อั้ม เนโกะ

คุณเป็นเหมือนเธอที่การอยู่ร่วมกับคนจำนวนมากไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนื่อยหรือหวาดกลัว การยกเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยในวงสังคมไม่ใช่เรื่องยาก และการปล่อยมุขตลกบางจังหวะก็เป็นสิ่งที่คุณทำได้เช่นกัน นอกจากวงสนทนา การได้เจอคนใหม่ ๆ และทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการเรียนหรือทำงาน เช่น การทำกิจกรรม ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น อั้มก็เป็นเหมือนคุณ และเธอเป็นคนหนึ่งที่รู้ว่า 112 อันตรายยังไง เธอเหมือนคุณ แต่เธอเลือกเส้นทางที่ต่างจากคุณ

แชร์

เราเคยเห็นอั้มทั้งช่วง ม. 5 - ม. 6 ก่อนเริ่มพูดเรื่องสถาบัน และช่วงปี 1 ตอนอั้มอยู่ครุฯ ก่อนที่จะซิ่วไป มธ. ซึ่งเป็นช่วงที่อั้มเริ่มพูดเรื่องสถาบันแล้ว

อั้มเป็นคนกล้าแสดงออก ชอบพูดชอบคุย อัธยาศัยดี ร่าเริง ทุกคนก็คุยกับอั้มปกติ แต่ตอนที่อั้มเริ่มวิจารณ์สถาบัน ตอนนั้นทุกคนและเราด้วย ก็ยอมรับว่าอึดอัด เป็นยุค ignorant ไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ

เพื่อนสมัยเรียนของอั้ม

เราจะเคยเห็นแค่เวลาอั้มทำอะไรที่เกี่ยวกับภาษาเยอรมัน แต่บอกได้ว่าอั้มเป็นคนที่เก่งเยอรมันที่สุดในโรงเรียน (ทวีธาภิเศก) และอั้มได้เข้าร่วมการคัดเลือกหาคนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการภาษาเยอรมันด้วย

เพื่อนสมัยเรียนของอั้ม

เรารู้จักอั้มจากการไปค่ายภาษาเยอรมันด้วยกันช่วงมัธยมปลาย เรากับอั้มอยู่คนละโรงเรียน แต่ด้วยความที่โรงเรียนที่สอนภาษาเยอรมันมีไม่เยอะนัก เวลาทำกิจกรรมจึงได้เจอกันข้ามโรงเรียน เราคุ้น ๆ ว่าอั้มพูดเยอรมันไหลลื่นมาก ในขณะที่เรายังพูดไม่เป็นประโยคเลย

ในความทรงจำของเรา อั้มเป็นกะเทยตัวเล็ก มีความแอ๊บแบ๊ว ทำตัวน่าเอ็นดู และถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นที่ไปค่ายก็มีการพกวิกผมยาวไปใส่ด้วย ฟีลกะเทยมัธยมทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ

เพื่อนสมัยเรียนของอั้ม

สำหรับเรา อั้มเป็นคนที่กล้าแสดงออกทางความคิดมาก ๆ มีจุดยืนที่ชัดเจนและหนักแน่นในประชาธิปไตย

อั้มเป็นคนแรก ๆ ที่เบิกเนตรให้เราเห็นอีกมุมของประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียน เราจำได้ว่าอั้มเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ให้ฟังเยอะมากตอนขึ้นรถเมล์ด้วยกัน

เรานับถือในความกล้าแสดงออกและยืนหยัดในความคิด ทั้งที่อาจไม่ได้มีคนเห็นด้วยกับอั้มมากนัก แต่อั้มก็ยังยืนหยัดเรียกร้อง และทำให้คนตาสว่างมากขึ้น

เพื่อนสมัยเรียน

อั้มเป็นคนน่ารักมาก อัธยาศัยดี เรารู้จักอั้มตั้งแต่รับน้องและเราเรียนวิชาเอกเดียวกัน ชีวิตในมหา'ลัยเลยตัวติดกันเสมอ อั้มชอบทานเฟรนช์ฟรายของแม็คโดนัลด์ ถ้ามีโปรลดราคาเราจะรู้จากอั้มก่อนเลย เพราะอั้มจะชวนไปกินด้วยทุกครั้ง

อั้มเชื่อมั่นในแนวคิดและหลักการตัวเองมาก อั้มกล้าแสดงจุดยืนในกิจกรรมประชุมเชียร์ กล้าพูดความเห็นของตัวเองในคาบเรียนที่มีนิสิตหลายร้อยคน เราได้คิดได้เห็นสิ่งต่าง ๆ กระจ่างเร็วขึ้นก็เพราะอั้ม ดีใจที่ได้รู้จักอั้มมาก ๆ

เพื่อนสมัยเรียนของอั้ม

20 มีนาคม 2557

เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามออกหมายเรียกให้อั้มมารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามที่เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 ได้พูดถึงสถาบันในการถ่ายทำรายการ "เบสต์ออฟยัวร์ไลฟ์" ของพรทิพา สุพัฒนกุล ซึ่งเป็นผู้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่

อั้ม เนโกะ

นอกจากนี้หลังเหตุการณ์รัฐประหาร คสช.ยังเรียกให้อั้มเข้าไปรายงานตัวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 เมื่ออั้มไม่ไปรายงานตัว ตำรวจจึงออกหมายจับฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคสช.ในวันที่ 13 มิถุนายน 2557

ทั้งหมดนี้ทำให้อั้มตัดสินใจลี้ภัย ทั้งที่อีกเพียงปีเดียวก็จะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว โดยเธอเดินทางสู่ประเทศฝรั่งเศสในช่วงตุลาคม 2557

“ตอนหลังรัฐประหาร กลัวจะโดนฆ่า โดนเก็บ โดนจับเข้าคุก ไม่มีใครอยากอยู่ในคุกไทยแบบอนาถ 10 ปี ยิ่งเราเป็นกะเทยไปอยู่ในคุกก็ลำบาก ฮอร์โมนก็ไม่มี แถมมีเรื่องความรุนแรงทางเพศ เรื่องสุขอนามัย จึงต้องวางแผนออกจากประเทศไทย”

อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame
อั้ม เนโกะ
frame

อั้มมองว่าถ้าเราออกมาต่อสู้ต่างประเทศแล้วเนี่ย เราไม่ได้ออกมาเพราะอยากอยู่รอดอยู่สบาย แต่เราออกมาเพราะว่าเราต้องต่อสู้กับเขาไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง

แล้วทางเลือกของเราคือการออกมาเป็นผู้ลี้ภัยต่างแดน เพื่อที่จะพูดในสิ่งบางอย่างที่คนในประเทศยังต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว และไม่กล้าที่จะพูดออกมา เพราะกฎหมายบางอย่างกำลังปิดช่องทาง ให้เขาไม่สามารถสื่อสารออกมาได้

[ที่ฝรั่งเศส อั้ม] ได้รับการยอมรับมาก **ในเอกสารอั้มก็เป็นผู้หญิง อยู่เมืองไทยทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้** ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีทาง เป็นประเทศที่ไม่เคยจะมองสิทธิของเรา อยู่นี่เราไปไหนก็มีแต่คนชื่นชอบ มีแต่คนรัก ไม่เหมือนเมืองไทยที่พอเห็นเราเป็นกะเทยปุ๊บผู้ชายก็เมินหน้าหนี ทำงานก็ลำบาก จำกัดอยู่แค่ในบางบริษัทเท่านั้น

ถ้าไม่ใช่เพื่อนกับที่บ้านก็ไม่รู้ว่าจะคิดถึงอะไร

เป็นห่วงครอบครัวเพราะตำรวจ ทหาร ก็ตามตลอด ช่วงหนึ่งไปข่มขู่ครอบครัวที่บ้านหนักมาก ขู่ว่าจะดำเนินคดี พ่อต้องอัดวิดีโอร้องไห้ ขอให้หยุดเถอะ พ่อรักหนูนะ

อั้มเลยต้องตัดการสื่อสารกับครอบครัวไป กลัวครอบครัวจะซวย สองปีมานี้พี่สาวก็ยังเขียนมาหาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ตอบเขา เพราะรู้ว่าถ้าตอบครอบครัวก็คงลำบาก เศร้านะ แต่เพื่อความปลอดภัยของเขา

[ในอนาคตเห็นภาพตัวเองเป็น] ...ป้าแก่ๆ ต้องทำวิจัย ปราศรัยการเมือง (หัวเราะ) กลับไปไทยคงกลายเป็นคุณป้าใส่แว่น ออกรายการด่าการเมือง อั้มไม่ใช่คนที่จะคาดหวังอยากมีอำนาจ เราด่าทั้งเผด็จการและประชาธิปไตย

อีก 20-30 ปีข้างหน้าอาจจะกลายเป็นเหมือนพรรคเล็ก ๆ ฝ่ายซ้าย radical ในฝรั่งเศสแต่อยู่ในเมืองไทย

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
เปลี่ยนชีวิตใครหลายคนไปตลอดกาล

จากคนธรรมดาที่มีความเชื่อ ความฝัน เป็นคนสำคัญของครอบครัวและเพื่อนพ้อง คนธรรมดาที่ชีวิตมีทั้งรอยยิ้มและรอยน้ำตา คนธรรมดาที่ตกเป็นจำเลยทางความคิดของสังคมไทย

แชร์