112 เท่าที่เล่าได้ เล่น Quizรู้จักราษฎรเข้าใจ112
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame

ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์

นัทเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่งที่ชีวิตทุกวันของเธอไม่ได้มีอะไรต่างกันมากนัก การตื่นเช้า ไปทำงาน เลิกงาน กลับบ้าน เป็นสิ่งที่คุณและเธอทำอยู่เป็นประจำอย่างเคยชิน คุณอาจไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องราวอื่น ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่กำลังทำ เว้นแต่การอ่านข่าวบันเทิงตามติดชีวิตดาราที่เป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเครียด ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เธอคนนี้เหมือนคุณ และเธอคนนี้อาจยังใช้ชีวิตไปแบบเดียวกับคุณ หากวันหนึ่งเธอไม่ได้ถูกเรียกว่า ‘ผู้ต้องหาคดี 112’

แชร์

หลังเรียนจบคณะวิศวกรรมเคมีและสิ่งทอ เราก็ทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งในบริษัทเกี่ยวกับสิ่งทอนี่แหละ ใช้ชีวิตปกติ ทำงานกลับบ้าน ไม่ได้สนใจการเมืองเท่าไหร่

กระทั่งตอนเลือกตั้งที่ทักษิณ ชินวัตรลงสมัครเป็นนายกฯ เพื่อนสนิทเรา เขาปั่นจักรยานไปฟังปราศรัย แล้วก็กลับมาเล่าให้เราฟังว่า ‘มันเป็นมิติใหม่ว่ะแก ฉันเห็นความหวังในตัวเขา’ นโยบายที่เพื่อนเล่าให้ฟังเป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันน่าจะดีถ้าเกิดขึ้นจริง สุดท้ายเราก็เลยเลือกทักษิณ

พิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของรัชกาลที่ 9 ที่จัดขึ้นในสมัยของรัฐบาลทักษิณทำให้เรารู้สึกภูมิใจมาก เพราะเราเองก็ไม่ต่างจากคนไทยสมัยนั้นที่เติบโตมาโดยเชื่อว่าในหลวงดีที่สุด

เราเก็บรูป ซื้อปฏิทิน มีเสื้อเหลืองไม่รู้กี่สิบตัว นั่งดูถ่ายทอดสดงานพิธีแล้วก็ร้องไห้อยู่หน้าทีวี ดีใจที่ประเทศไทยจัดงานได้ยิ่งใหญ่ ซึ่งความภูมิใจนั้นมันสะท้อนกลับไปที่ตัวผู้นำที่ทำให้ประเทศเราได้รับการยอมรับจากทั่วโลกขนาดนี้

ปี 2549 เราไม่เข้าใจว่าทำไมทักษิณถึงถูกรัฐประหารได้ง่ายดายขนาดนั้น และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ตามมามันก็ทำให้เราตั้งคำถามต่อไปเรื่อย ๆ อย่างเรื่องการยุบพรรค หรือการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลัง

เราก็เลยเริ่มเข้าไปอ่านเว็บบอร์ดการเมืองต่าง ๆ ความสนุกในตอนนั้นคือหลังจากได้คำตอบอย่างหนึ่ง มันก็มักจะเกิดข้อสงสัยใหม่ให้เราหาต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ

จากที่เคยชอบอ่านข่าวบันเทิง รู้จักดาราทุกคน จำโปรแกรมหนังได้ทุกเรื่อง เราเปลี่ยนมาอ่านแต่การเมืองอย่างเดียว

กระทั่งเริ่มเล่นเฟซบุ๊กในปี 2552 เราก็เริ่มรู้จักกับคนที่สนใจการเมืองเหมือนกัน รวมกลุ่มกันเปิดเพจ ช่วงนั้นเราแอ็กทีฟในเพจการเมืองหลายเพจ อย่าง ‘Red Intelligence’ หรือ ‘ประชาธิปัตย์ชื่อเดียวล่มจมทั้งประเทศ’

เราทำเพจจนกลายเป็นงานอดิเรกไปเลย แต่ไม่ได้ทำเพื่อซัพพอร์ตยิ่งลักษณ์หรือทักษิณนะ

ยอมรับว่าเราอาจจะเคยชื่นชมเขาก็จริง แต่ถึงจุดหนึ่งที่เราอยู่ในเส้นทางนี้นานเข้า เราก็มองเห็นว่าคนเราทุกคนมันก็เป็นสีเทา และเลิกยึดติดกับตัวบุคคลไปในที่สุด

หลังเกิดรัฐประหารปี 2557 เราตัดสินใจเปิดเพจ เรารักพลเอกประยุทธ์ เพื่อทำภาพและคอนเทนต์ล้อเลียน

สาเหตุที่ใช้คำว่า ‘รัก’ ก็เพราะเราคิดว่า ในเมื่อวิจารณ์ไม่ได้ เรารักก็ได้ อีกอย่างคือคนรอบข้างเราก็รู้สึกตลกกับการเข้ามาของประยุทธ์

เราคิดว่าเราเซฟตัวเองในระดับหนึ่ง เพราะเราไม่ได้เปิดเผยตัวตน ก่อนหน้านั้นเวลาไปม็อบเราก็ไม่เคยถ่ายรูปลงโซเชียล เราแทบไม่มีตัวตนในม็อบเลยด้วยซ้ำ กระทั่งเราถูกจับนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ปลอดภัย

27 เมษายน 2559

นัทและคนอื่น ๆ รวม 8 คน ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานร่วมกันเผยแพร่ภาพและข้อความที่มีเนื้อหาต่อต้านการทำงานของคสช. และในกรณีของนัทกับปอน (หฤษฎ์ มหาทน) ยังถูกกล่าวหาว่าทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 สืบเนื่องจากบทสนทนาในแชตส่วนตัว ซึ่งนัทระบุว่าหลักฐานนั้นมาจากการตัดต่อ

ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์

จังหวะที่ถูกจับและติดคุกเป็นช่วงก่อนทำประชามติรัฐธรรมนูญ 2559 ถ้าตามข่าวจะเห็นเลยว่านายกฯ และคณะพูดประจำว่า ไซเบอร์เป็นอะไรที่กวนประสาทมาก เขาควบคุมตรงนี้ไม่ได้ สื่อหลักถูกครอบงำไปหมดแล้ว สื่อหลักนำเสนอมุมเดียวด้านเดียวตลอดเราก็เห็นอยู่ การจับกุมเราทั้งแปดคนเป็นที่มาให้หลายคนในโลกออนไลน์กลัว เพจการเมืองดัง ๆ หลายเพจก็ปิดตัวในตอนนั้น มันเหมือนเขียนเสือให้วัวกลัว ซึ่งมีผลมากด้วย

เราเชื่อมาก ๆ ว่าการถูกจับกัน 8 คนเกิดการจากการถูกแฮ็กเฟซบุ๊ก ตอนที่ทหารมาจับกุมที่บ้านมันมีคำพูดบางอย่างที่ทำให้เราเชื่อได้ว่าเขาแฮ็กเฟซบุ๊กเรา

อีกอย่างคือมันมีโอกาสน้อยมากที่เขาจะรู้ว่าเราเป็นแอดมินเพจโดยที่เขาไม่ได้แฮ็ก แล้วการที่ข่าวแพร่กระจายออกไปว่าเราสามารถโดนแฮ็กเฟซบุ๊กได้ เป็นอะไรที่น่ากลัวมากในกลุ่มที่เคลื่อนไหวในโลกออนไลน์

ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์
frame

หลังออกจากคุก เรารู้สึกตัวเองเข้มแข็งมาก แทบไม่บุบสลาย แต่มันมาเห็นผลจริง ๆ ตอนที่เราต้องไปรายงานตัวและขึ้นศาล เรามักจะมีอาการนอนไม่หลับในคืนก่อนหน้า และเราก็ไม่รู้ว่าจะบำบัดตัวเองอย่างไร

ปกติแล้วเราเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง โดยเฉพาะเวลาทำงานที่เราควบคุมได้ แต่การติดคุกนอกจากจะทำให้เราเป็นคนมีคดีติดตัวแล้ว เราก็ยังกลายเป็นคนตกงาน ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนสนิท ซึ่งมันรู้สึกแย่ โอเค เรารู้ว่าเพื่อนรักเรา แต่มันก็ยังแย่อยู่ดี

คำถามคือทำอย่างไรเราจึงจะไม่ติดคุกอีก เพราะไม่อย่างนั้นจิตใจเราอาจจะไม่ไหวแล้ว แม่เราก็เช่นกัน สุดท้ายเลยนำไปสู่คำตอบคือการลี้ภัย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร มันเป็นความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวเรามาตั้งแต่ยังอยู่ในคุกด้วยซ้ำ

เราเริ่มเขียนจดหมาย หาข้อมูล และทำเอกสารขอออกนอกประเทศเพื่อไปสิงคโปร์ จากนั้นก็บินต่อมาถึงอเมริกา โดยที่เราเองก็ไม่เคยมาอเมริกาด้วยซ้ำ

การลี้ภัยเหมือนมาตายเอาดาบหน้า เราไม่มีแผนว่าไปถึงแล้วใครจะมารับ เราจะต้องไปที่ไหนต่อ

การขอสถานะผู้ลี้ภัยในอเมริกาใช้เวลานานมาก และยากมากในสมัยของทรัมป์ เรื่องนี้ทราบดี แต่ที่ตัดสินใจเลือกประเทศนี้เพราะเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ถ้าต้องไปเริ่มภาษาใหม่อาจลำบากกว่านี้ และมองว่าอเมริกาเป็นประเทศแห่งความหวัง มันมีความหวังทุกซอกทุกมุมของอเมริกา

ล่าสุดเราเพิ่งได้สถานะผู้ลี้ภัยจริง ๆ หลังไบเดนชนะเลือกตั้งนี่เอง ปัจจุบันเราเป็นพนักงานประจำในบริษัทหนึ่ง มีสวัสดิการ เลี้ยงดูตัวเองได้ และมีแฟนที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเรา

ก่อนมาที่นี่เราเคยคุยกับแม่ว่าเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ช่วงแรกเราวางมือจากการเมืองไปเลย ทำงานอย่างเดียว ว่างก็ไปเที่ยว แทบจะไม่วิจารณ์การเมืองด้วยซ้ำ

จนกระทั่งปี 2563 ที่ไทยมีม็อบของน้อง ๆ รุ่นใหม่ มันทำให้เราเริ่มกลับมามีไฟอีกครั้ง เรารู้สึกว่าเขาเสียสละตัวเองมาก ๆ เพื่อดันเพดาน ทำให้เรื่องเจ้ากลายเป็นเรื่องที่พูดถึงได้เป็นปกติ

คิดดูว่าเขาเสียสละตัวเองกันขนาดนี้ แล้วเราที่อยู่ต่างประเทศล่ะ เราแทบไม่มีความเสี่ยงที่จะต้องรับผลกระทบอะไรด้วยซ้ำ

เราตัดสินใจรวมตัวกันเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ Thai Rights Now ขับเคลื่อนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน

การชุมนุมครั้งล่าสุดของพวกเราคือวันครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 แกนนำแต่ละเมืองมาวิดีโอคอลเพื่อแชร์กันว่าแต่ละคนได้ทำอะไรกันมาบ้าง

นี่คือความสุขของเราในตอนนี้ เราไม่ได้คิดว่าจะต้องทำให้ประยุทธ์โกรธ มันอาจจะไม่สร้างแรงกระเพื่อมกลับไปถึงไทย แต่อย่างน้อยเราก็ยังเดินอยู่บนเส้นทางนี้ เราไม่ได้เป็นตัวถ่วงใคร เพราะฉะนั้นเราก็จะทำต่อไป

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
เปลี่ยนชีวิตใครหลายคนไปตลอดกาล

จากคนธรรมดาที่มีความเชื่อ ความฝัน เป็นคนสำคัญของครอบครัวและเพื่อนพ้อง คนธรรมดาที่ชีวิตมีทั้งรอยยิ้มและรอยน้ำตา คนธรรมดาที่ตกเป็นจำเลยทางความคิดของสังคมไทย

แชร์